เห็นหุ้นเวียดนามลงมาเยอะ มาฟังความเห็นจากจาก ดร นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และคุณชัยพร น้อมพินักษ์เจริญ จากบัวหลวงครับ ว่าภาพระยะสั้นและระยะยาวเป็นอย่างไร และหุ้นหรือกองทุนกลุ่มไหนที่จะได้ประโยชน์ในระยะยาว

สำหรับการลงในช่วงนี้ ดร นิเวศน์มองว่าเป้นการปรับตัวทางเทคนิคตามอเมริกาที่ลงหนัก แต่ ระยะยาวเวียดนามยังไปได้อีกเยอะ

ถ้าประวัติศาสตร์ ตลาดเวียดนามเป็นประเทศเกิดใหม่ โตไว ญี่ปุ่น ไทย เวียดนนาม
พบความจริงว่า ตลาดหุ้นของท้ง 3 ประเทศ ประเทศพวกนี้จะเติบโตยาวมาก เป็นเวลาต่อเนื่องกัน 40 ปี
หลังจากนั้นจะ Maturity และ Decline 20 ปีแรกจะโตไวมาก 20 ปีหลังจะชะลอลง แต่ก็ยังโต หลังจากนั้น decline

ญี่ปุ่น เริ่มเปิดตลาดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 4 ปี 1949 ผ่านไป 22 ปี ดัชนีชึ้นจาก 100 ไป 2,700 โตปีละ 16% จากนั้น 18 ปี 2700 – 37,000 20 ปีหลัง 15.7

พอครบ 40 ปี all time ใน 1971 32ปีหลังจากนั้น 37,000ลงมา 27,000 ลบมา 1% ทุกปี

สำหรับประเทศไทย เปิดตลาดปี 2518 ผ่านไป 22 ปี โตปีละ 10% กว่า 2539 ไปพีคที่ 1500 เกิดวิกฤติ ใช้เวลา 18 ปีถึงปี 2557 หุ้นโตแค่ 2.8% 40 ปีหุ้นเราโต 7% บวกปันผล 2-3% เป็น 9%

พอ 2557 ครบ 40 ปี หลังจากนั้น 7 ปี หุ้นโตปีละ1% กว่า

เวียดนามเปิด 22 ปี เปิด 2000 ปีนี้ 2022 ขึ้นมา 12.6%

เวียดนามอีก 18 ปีต้องไปได้อีก เวียดนามตอนนี้ไม่เหมือนเมืองไทย

ชัยพร น้อมพินักษ์เจริญ

ในระยะสั้นน่ากลัวหรือเปล่า กองแต่ละกองมีการเปิดไปเวียดนามเยอะมาก สะท้อนภาพอะไร

คุณชัยพรบอกว่า เหตุการของเวียดนาม ย้อนไปเหมือนช่วงที่เรียนจบเข้าตลาดหุ้น

เริ่มเข้าตลาดหุ้น 2535 เข้ามาตลาดหุ้นอยู่ 600 จุด ฟื้นตัวจากสงครามตะวันออกกลาง ไทยถูกมองว่าเป็นเสือตัวที่ 5
ตลาดหุ้นไทยคึกคักมาก มีเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามา

กำลังเทรดอยู่ดีๆ มีข่าวให้ตลาดปรับตัว คือการจับเรื่องการปั่นหุ้น
ถ้าดูโครงสร้างของนักลงทุนเวลานั้น ส่วนใหญ่เป้นรายย่อย สถาบันไม่ค่อยมีบทบาท
แต่ปัจจุบันสถาบันและต่างชาติ มีสัดส่วนสูงข้น

เวียดนามกำลังเจอแบบเรา ที่รายย่อยล้วนๆ และมีเรื่องของการจับการปั่นหุน
เกิดจากเวียดนามพยายามปรับโครงสร้างมาตรฐาน กฎระเบียบให้เป็นสากล
เพื่อปรับจาก frontier market ให้เป็น emerging market

สมัยนั้นที่ไทย คนแห่ขายเพราะไม่รู้ว่าหุ้นที่ตัวเองกำลังเทรดจะโดนการตรวจสอบปั่นหุ้นหรือเปล่า
กระจายเป็นโดมิโนไปหุ้นหลายตัว เหตุการนั้นกระทบประมาณ 3 เดือน
สุดท้ายก็ไปที่การเปิดระบบการเงิน กู้เงินต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
ทำให้หุ้นข้นเป็นรวดเดียวเกือบ 800 จุด

สำหรับตลาดหุ้น เวียดนามหลุดค่าเฉลี่ย 200 วัน
เกิดจากเวียดนามเอาจริงเรื่องปั่นหุ้น เพราะตรวจเจอปุ้บจับติดคุกเลย
หุ้นเวียดนามส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดเล็ก ประกอบกับเวียดนามปีที่แล้ว ขึ้นมาเยอะ เป็นโอกาสเลยแล้วกันที่จะ เทกกำไร

กองทุนต่างๆ พยายาม ระดมทุนไปลงทุนในเวียดนาม เป็นเรื่องปกติ ที่เห็นประเทศไหนโดดเด่นมาก ก็จะดึงดูดความสนใจ นักลงทุน และกองทุนออมาเยอะ ตรงกับการขายทำกำไรพอดี

คนลงทุนไนเวียดนามเข้าใจภาพระยะยาว ว่าเป็นเหมือนเมืองไทนเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว
ในยุคนั้นสถาบันการเงิน และอสังหาเป็น sector ใหญ่ เพราะประเทศไทยอยู่ในช่วงของการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน

โครงสร้างคนส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุน้อย ในขณะที่ประเทศไทยเข้าสังคมผู้สูงอายุ

เวียดนามสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน รถไฟฟ้าเพื่อรองรับการขนส่ง

ถ้ามองทั่วเลขเศรษฐกิจ Gdp ขยับขขึ้นมาเรื่อยๆ เกิน 6%
เงินเฟ้อยังไม่สูงจุดพลุขึ้นไป สิ่งที่น่าสนใจ การส่งออกและการนำเข้ายังโตในระดับดีมาก
Current account เป้นบวก ตรงข้ามกับไทยที่สมัยนั้นติดลบมาตลอด
เพราะเห็นบทเรียนจากประเทศไทยเพราะจะเป็นจุดอ่อนในการโจมตีเรื่องคาเงิน

เรื่องค่าเงินสมัยก่อน เราเห็นค่าเงินเวียดนาม สวิงมาก
ผานมา 3 ปี ค่าเงินเวียดนามนิ่งมาก แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการ

ตอนนี้เวียนนามกำลังรวมตลาด 2 แห่งของเขา
โครงสร้งของ vn30 ส่วนใหญ่เป็น ธนาคาร และอสังหา และ commodity

เหล็ก เวียดนามคือช่วงสร้างบ้านเสร้างเมือง เหล็กจะเจริญเติบโตได้ดี

เลยออกตัว Diamond เพราะอันดับ 1-2 ของกลุ่มเป็น การเงิน และค้าปลีก สะท้อนการสร้างบ้านสร้างเมือและการบริโภค

ดรนิเวศน์

เทคโนโลยีก้าวข้ามอย่างโทรศัพท์ข้ามเป็นมือถือเลย
หลายเทคโนโลยีข้ามไม่ได้ เพราะเวียดนาม ภูมิประเทศเหมือนไทย คนไปเพราไปตากแอร์ ไปทำอะไรที่เดียวจบ
เทคโนโลยีเวียดนามจะไปไวกว่าไทย เพราะใหญ่พอ และสังคมนิยม รัฐบาลมีอำนาจพอสมควร

Spg ทำโปรแกรมขายทั่วโลก ทำแทบไม่ทัน ต้องไปเปิดมหาวิทยาลัยของตัวเอง นักศึกษาท่วม
vinfast ไปสร้างรถไฟฟ้าที่อเมริกา ที่กลับมาขายอเมริการและกลับมาเวียดนาม

คล้ายๆเกาหลี ที่ผลิตมาขายแข่งเลย ต้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า

ดร เน้นลงทุนในอะไรที่แน่นอน โรงไฟฟ้า และค้าปลีก
เพราะหลายประเทศไปลงทุนที่เวียดนามเพราะชดเชยจากจีน เพราะ productivity ดีกว่า
เจริญเพราะนักลงทุนต่างเทศ ต้องการแรงงาน แรงงานก็ไปบริโภค ซื้อบ้าน เดินห้าง
การท่องเที่ยวต่อไปจะดึงคนเข้าไปเที่ยว
ดูแล้ว 18 ปีข้างหน้าสบายๆ ทุกวันนี้ส่งออกมากกว่าไทยไปแล้ว จะแซงประเทศไทย
สัดส่วนส่งออกต่อ gdp มากกกว่าไทย

ส่งที่พัฒนาตอนนี้เป็นการส่งเสริมอนาคต เป็นการลงทุน ไม่ใช่การอัดฉีดให้ใช้จ่าย

คนจะขยับจากต่างจังหวัดมาไทย มากขึ้นเหมือนกันไทย

สนใจโรงไฟฟ้า และค้าปลีก ขอบริษัทที่กำไรไม่จำเป้นต้องเป็นผู้ชนะ แต่ค้าปลีกต้องเป็นผู้ชนะ
ต่อไปจะมากกว่าไทย เนื่องจาก sme ไม่ค่อยแข็ง เพราะ sme หายไปช่วงเวียดนามใต้แพ้
ส่วนใหญ่เป้นรายใหญ่มาเลยกำลังแข่งกัน ยังไม่มีผู้ชนะชัดเจน
sector ที่จะเป็นผู้ชนะมีมากกว่าไทย
โรงพยาบาลยังมีไม่เยอะ
ผู้ให้บริการมือถือ มีของหลวงยงไม่โดดเด่นขนาดนั้น

ซื้อ Diamond ต่างชาติที่อยากซื้อ เป็นหุ้นแนว super stock

ชัยพร

ทำไมต่างชาติขายเวียดนาม

จริงเวลาพูดถึงต่างชาติ คนไทยไปเวียดนามก็คือฝรั่ง
ปีที่แล้วลูกค้าบัวหลวงก็เยอะ และเทคกำไรบางส่วน ในระยะสั้น
Pe ของตลลาด กำไรโตกว่าปรเทศไทย แต่ PE 15 เท่า
การที่ตลาดลงแต่ กำไรไม่ลง แสดงว่าถูกลง

เวียดนามมองว่าระยะสั้น เหมือนไทยคือโดนโควิทมาด้วยกัน
การบริโภคก็คล้ายประเทศไทยต้องใช้เวลา กว่าจะกล้ากินข้าว และท่องเที่ยว
เวียดนามพอโควิทไม่ขึ้น การเดินทางเริ่มกลับมา ซึ่งเป็นรูปแบบการฟื้นตัวของการบริโภค
สิ่งต่างๆเหล่านี้กำลังกลับมา

ก่อนหน้านี้คนเดินห้างน้อย ก็ต้องลดค่าเช่า ให้ร้านพวกนี้ยังอยู่
เวลาต่อไปเริ่มปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้น

ตลาดอาเซียนปีนี้เล่นดีมาก
ของไทยนักลงทุนมีความรู้มากขึ้น กองทุนมีบทบาทมากขึ้นในตลาดหุ้น มีผลให้ตลาดหุ้นไทยมีสเถียรภาพมากขึ้น
และรอบเศรษฐฏิจที่ ช้ากว่าฝังอเมริกา นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา

กองทุน Diamond pe 15 เท่า ต่ำกว่า growth ไม่เหมืนประเทศไทยที่ ถ้าเจอหุ้นที่เติบโตสูง pe จะสูงกกว่า growth

ขณะเดียวกัน growthที่เกิดขึ้นจะอิ่มตัวประมาณเมื่อไร สำหรับประเทศไทย กำไรที่ลดลงเกิดจากโครงสร้าประชากรที่เปลี่ยนแปลง

ถ้าย้อนไปดู 2015-2020 การเตบโตของกำไรแทบไม่เติบโตมากแล้ว แต่ก่อนโตจาก การลดภาษี และการอุดหนุนสินค้าเกษตร
ทำให้ตลาดหุ้นไทยไปต่อไม่ได้ ทำได้แต่ rotation แต่ ดัชนีไม่ไป

แต่เวียนดนามไม่เห็นภาพนั้น เพราะการเติบโตของกำไรยังไปได้ 10-12 ได้ต่อ

ความเสี่ยงเรื่องนโยบายนาจะน้อยกว่า เพราะเศรษฐกิจใหญ่ทุกคนต้องเอาใจ ทุกวันนี้โตจากการเปิดประเทศ โดยเฉพาะตะวันตกที่นำเข้าสินค้าเยอะ

โดยรวมแล้วยังเห็นอนาคตของประเทศเวียดนามที่ยังไปได้อีกยาว จากโครงสร้างประชากร และการขยายตัวทางเศรษฐกิจการจากลงทุนจากต่างประเทศ เมื่อคนมีเงินก็จะเริ่มใช้จ่าย หุ้นค้าปลีกก็จะมาต่อไป